การเติมไขมันคืออะไร ตอบโจทย์ผลลัพธ์ผิวอ่อนเยาว์ดูเด็กลงได้อย่างไร ทำความเข้าใจปัญหาผิวแก่ไวที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ความจริงของผิวเมื่ออายุมากขึ้น
เมื่ออายุเริ่มเพิ่มมากขึ้น สิ่งที่ผู้หญิงแทบทุกคนต้องยอมรับคือความจริงที่ว่าความอ่อนเยาว์มีโอกาสร่วงโรยตามกาลเวลา ริ้วรอยต่างๆ เริ่มโผล่ตัวมาให้สะเทือนใจ ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามการเติบโตของวัยเมื่ออายุมากขึ้น ไม่ว่าจะความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของผิวที่น้อยลง ชั้นไขมันใต้ผิวหนังก็บางลงจนเกิดรอยได้ง่าย ทั้งการผลิตไขมันก็น้อยลงทำให้ผิวแห้งมากขึ้น ริ้วรอย จุดด่างดำ จึงโผล่มาให้เห็นเป็นปกติ ความจริงของผิวเมื่อแก่ตัวลงนี้เองทำให้หลายคนหันมาใส่ใจกับปัญหาผิวหน้าและมองหาหนทางชะลอการแก่ตัวของผิวเพื่อยืดช่วงเวลาของความอ่อนเยาว์ให้อยู่กับเรานานขึ้น
5 ตัวการทำผิวแก่ง่ายก่อนวัย มีอะไรบ้าง
แม้จะดูแลผิวหน้าอย่างดีแค่ไหน แต่เหล่าวายร้ายใกล้ตัวก็อาจทำลายสุขภาพผิวให้ทรุดโทรมก่อนวัย สาเหตุหลักของผิวแก่ง่ายมักเกิดจากไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นหลัก ได้แก่
- การสูบบุหรี่ สารนิโคตินมีผลกับเซลล์ในร่างกาย เข้าไปทำลายคอลลาเจนและเส้นใยในผิวหนัง ส่งผลให้เกิดความหย่อนคล้อน ริ้วรอย ทั้งยังทำให้หน้าดูตอบและซูบผอม
- อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น อาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวต่างๆ ก็เป็นตัวการหน้าแก่เช่นกัน
- การดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปมีส่วนทำให้ผิวสูญเสียน้ำ ทำร้ายผิวจนแก่กว่าวัย
- สุขภาวะการนอน ยิ่งนอนน้อย นอนไม่พอมากเท่าไหร่ เซลล์ร่างกายก็แก่ไวขึ้นเท่านั้น
- ความเครียด สมองจะหลั่งฮอร์โมน Cortisal ทันทีที่เมื่อไหร่มีเรื่องให้เครียด ซึ่งฮอร์โมนความเครียดนี้จะยับยั้ง hyaluronan synthase และ คอลลาเจน ซึ่งคอยช่วยให้ผิวดูเต่งตึงสดใส
ดูแลผิวอย่างไรไม่ให้แก่ไว
หนทางดูแลผิวให้อ่อนเยาว์ไปนานๆ คือการปรับพฤติกรรมตัวเอง หลีกเลี่ยงนิสัยทำร้ายผิว ไม่ว่าจะด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ทาครีมกันแดดเป็นประจำ ลดละเลิกการสูบบุหรี่ รับประทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์ ดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง ออกกำลังกายให้มากขึ้น และจัดการความเครียดให้เป็นพยายามนอนหลับให้เต็มอิ่ม พร้อมทั้งคอยบำรุงดูแลผิวอยู่เสมอ เพื่อชะลอการเสี่ยมโทรมของผิว รวมถึงการเลือกพึ่งพาเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้วยการย้อนวัยให้ผิวดูเด็กลงด้วยวิธีเติมไขมันผิว ก็สามารถซ่อมแซมริ้วรอย เพิ่มความเต่งตึงให้ผิวได้เช่นกัน
การเติมไขมัน (Fat grafting) คืออะไร
การเติมไขมัน (Fat grafting) คือการศัลยกรรมโดยนำไขมันส่วนเกินจากบริเวณที่ไม่ต้องการของร่างกาย เช่น ไขมันหน้าท้องหรือไขมันจากต้นขา นำมาปลูกถ่ายในบริเวณอื่นที่ต้องการเติมเต็มเพื่อเพิ่มความเรียบเนียนเต่งตึง ให้ผลลัพธ์ผิวที่อวบอิ่มอ่อนเยาว์ดูเด็กลง
การเติมไขมันช่วยเรื่องอะไรบ้าง
อย่างที่รู้กันดีว่าอายุที่เพิ่มมากขึ้นมาพร้อมความเสื่อมโทรมของร่างกายเช่นกัน ผิวที่เคยเป็น หัวใจสำคัญของการเติมไขมันเข้าสู่ผิวคือการเพิ่มน้ำหนักความอ่อนเยาว์ให้ผิวดูเปล่งปลั่งเต่งตึงเป็นธรรมชาติเพื่อภาพลักษณ์ที่ดูเด็กลง เช่น
- เติมให้โหนกแก้มลดลง
- เติมไขมันเพิ่มสัดส่วนสะโพกให้ได้หุ่นทรงนาฬิกา
- ซ่อมแซมริ้วรอยแผลเป็น
- เติมไขมันเพื่อแก้ไขปัญหาหน้าตอบ หย่อนคล้อย ดูแก่กว่าวัย
ขั้นตอนเติมไขมันมีอะไรบ้าง (Fat grafting)
การเติมไขมันประกอบไปด้วย 3 ขั้นตอนหลัก คือ
- ขั้นตอนดูดไขมัน หลังจากได้รับยาชาระงับความรู้สึก ศัลยแพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กบนผิวเพื่อสอดท่อขนาดเล็กในการดูดไขมันจำนวนหนึ่งออกมา จากนั้นจะเย็บปิดแผล
- ขั้นตอนเตรียมไขมัน ด้วยเครื่องมือเฉพาะเพื่อให้ไขมันที่เก็บมาสามารถใช้งานได้
- ขั้นตอนเติมไขมัน โดยการฉีดไขมันจำนวนน้อยเข้าสู่บริเวณที่ต้องการการเติมเต็ม
หลังเติมไขมัน ใช้เวลาฟื้นตัวนานแค่ไหน
ขั้นตอนการเติมไขมันสามารถเสร็จสิ้นได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ผู้รับการเติมไขมันสามารถกลับบ้านได้เลย ไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ได้รับการเติมไขมัน สิ่งสำคัญคือการปฏิบัติตามขั้นตอนดูแลตัวเองที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อลดความเสี่ยงจากผลลัพธ์ที่ไม่พึงพอใจ
ควรดูแลตัวเองช่วงฟื้นตัวหลังเติมไขมันอย่างไร
- หลีกเลี่ยงการลงน้ำหนักบนใบหน้า รวมถึงการนวดใบหน้าในช่วง 1 เดือนแรก เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันสเต็มเซลล์ที่เติมเข้าถูกรบกวน และเพิ่มโอกาสให้ไขมันเต็มเซลล์เจริญเติบโตได้ดี
- ไม่ควรให้ผิวสัมผัสกับความร้อนโดยตรง เพราะจะส่งผลให้ไขมันที่เติมเข้าไปสลายไวกว่าปกติ
- ในช่วง 14 – 30 วันแรกควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้ไขมันเติบโตได้ตามปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหนักและหักโหม ในช่วง 2-3 เดือนแรกอาจส่งผลต่อการสลายตัวของไขมัน ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยง
- ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหมอในการใส่ชุดกระชับตามระยะเวลาที่เหมาะสม
- อาหารหมักดองและอาหารไม่สุก หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ อาจจะส่งผลให้เกิดการอักเสบ ควรงดรับประทานในช่วงเวลา 1 เดือนแรก
- ไม่ควรให้บริเวณที่เติมไขมันโดนน้ำในระยะเวลา 24 ชั่วโมงแรก รวมทั้งดูแลความสะอาดบริเวณแผล และหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำต่ออีกอย่างน้อย 7 วัน
- ปรับพฤติกรรมการนอนโดยการนอนยกหัวสูงประมาณ 3-5 วัน
- สามารถบรรเทาอาการบวมช้ำให้ทุเลาลงด้วยการประคบน้ำแข็ง 1-2 นาที เท่านั้น ไม่แนะนำให้ประคบนาน เพราะจะส่งผลต่อไขมันที่เติม
- หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์โดยทันที
เติมไขมันกับหมอคิม ลา เฟอร์ลี่ คลินิกปลอดภัยอย่างไร
ลา เฟอร์ลี่ คลินิก ได้รับมาตรฐานกึ่งโรงพยาบาล มีห้องผ่าตัด และเครื่องมือที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล ดูแลโดยทีมแพทย์ที่ชำนาญด้านไขมันโดยตรงพร้อมประสบการณ์ดูดไขมันมากกว่า 15,000++เคส และได้รับการอบรบด้านการดูดไขมันจากประเทศเกาหลีที่เป็นอันดับ 1 ด้านศัลยกรรม นอกจากนี้ เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์สามารถตรวจสอบได้ พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่มีความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรม การใช้เครื่องมือทางการแพทย์ รวมถึงเทคนิคการดูดไขมันที่ทันสมัยบนพื้นฐานของความปลอดภัย และพึงพอใจของผู้รับบริการ

นพ.กิตติธัช สินพิพัฒน์พร (คุณหมอคิม) แพทย์เฉพาะทางด้านการปรับรูปหน้าด้วยไขมัน สำเร็จการศึกษาด้านตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับการอบรมเทคนิคดูดและเติมไขมันจากสถาบันที่มีชื่อเสียงในเกาหลีโดยตรง พร้อมมีประสบการณ์เฉพาะด้านในการออกแบบสัดส่วนเฉพาะบุคคล รวมถึงการปรับรูปหน้าด้วยโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ เพื่อมุ่งเน้นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากที่สุด