ซึ่งการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอกของแต่ละบุคคล นอกเหนือจากเรื่องของความสวยงามแล้ว ปัจจัยหรือองค์ประกอบของแต่ละบุคคลก็เป็นส่วนประกอบสำคัญที่มีผลต่อการเลือกรูปแบบ เลือกเทคนิคในการผ่าตัด หรือเลือกวัสดุที่ใช้ตกแต่งเสริมหน้าอกที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นการศัลยกรรมเสริมหน้าอกของคนไข้แต่ละคนจึงต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้ศัลยกรรมเท่านั้น
ซิลิโคนเสริมหน้าอก ที่นิยมใช้ในกันในการผ่าตัดศัลยกรรมมีด้วยกันหลายแบรนด์ และถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปทรงหลัก ๆ ซึ่งในแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกัน ตามเทศโนโลยี และการพัฒนาของแต่ละผู้ผลิตเอง แต่โดยขึ้นพื้นฐานแล้วมักพัฒนามาจาก 2 รูปทรง ดังนี้
1. ซิลิโคนทรงกลม
ลักษณะทรงกลมแต่จะมีความโค้งมน คล้ายลูกซาลาเปา มีฐานกว้าง มีหลากหลายขนาดให้เลือกใช้ เหมาะกับคนที่มีช่วงบนหรือบริเวณของไหล่ที่กว้าง มีเนื้อหน้าอกอยู่แล้วแต่ต้องการให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้น เน้นให้เนินอกดูเต็ม และมีรูปทรงที่ชัดเจนขึ้น
2. ซิลิโคนทรงหยดน้ำ
ลักษณะคล้ายเต้านมธรรมชาติของเพศหญิง ซึ่งขณะที่ยืนจะมีความหย่อนคล้อยเล็กน้อยตามแรงโน้มถ่วงของโลกแต่จะไม่ยาน เพราะเหตุนี้จึงทำให้ดูธรรมชาติมากกว่าซิลิโคนแบบทรงกลม นับเป็นรูปทรงซิลิโคนที่เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย เนินไม่ชัด และคนที่มีบริเวณไหล่เล็ก แคบ แต่อยากให้หน้าอกดูอวบอิ่มแบบธรรมชาติ และไม่ต้องการเห็นรูปทรงซิลิโคนชัดจนเกินไป ผลลัพธ์หลังเสริมซิลิโคนทรงนี้ไปแล้วจะมีความเรียนเป็นธรรมชาติเข้ากับสรีระได้ง่ายกว่าแบบทรงกลม แถมยังช่วยให้เต้านมดูเชิดขึ้น พุ่งขึ้นได้อีกด้วย
1. Mentor® เป็นซิลิโคนที่มีความยอดนิยมมากเป็นอันดับ 1 สัญชาติอเมริกา (USA) ได้รับการการันตีคุณภาพผ่านการรับรองจาก US FDA มีทั้งแบบผิวเรียบและผิวทราย โดยจะถูกแบ่งออกได้อีก 3 แบบ
1.1 MENTOR® MemoryGel® ซิลิโคนทรงกลม ผิวเรียบ และ ผิวทรายละเอียด (Smooth & Siltex™ Microtexture) : ให้ผลลัพธ์เป็นเนินสวย ชัดและนุ่มดูเป็นธรรมชาติ
1.2 MENTOR® MemoryShape® ซิลิโคนทรงหยดน้ำ ผิวทรายละเอียด (Siltex™ Microtexture) : ให้ทรงหน้าอกเป๊ะ มีความโค้งมนเหมือนหยดน้ำตามทรงธรรมชาติของเพศหญิง ให้สัมผัสที่เฟิร์มกระชับแบบสาวสุขภาพดี เพราะมีคุณสมบัติหนืดข้นมากกว่าเดิมทำให้ซิลิโคนเกาะรูปเป็นทรงได้มากขึ้น
1.3 MENTOR® MemoryGel® Xtra ซิลิโคนทรงกลมรุ่นใหม่ล่าสุด ผิวเรียบ และ ผิวทรายละเอียด (Smooth & Siltex™ Microtexture) : เป็นซิลิโคนแบบทรงกลมรุ่นใหม่ล่าสุด ที่รวมข้อดีของรุ่นทรงกลมและหยดน้ำเอาไว้ด้วยกัน ให้สัมผัสนุ่มนิ่มและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ทรงเป๊ะคล้ายหยดน้ำ แต่อวบอิ่มตั้งแต่เนินอกเหมือนทรงกลม มีผนังหุ้มซิลิโคนที่บางลงกว่า 35% ทำให้มีสัมผัสนุ่มมากขึ้น แต่ก็ยังคงมีความแข็งแรง
2. Motiva ต้องยอมรับเลยว่าซิลิโคน Motiva เป็นที่นิยมใช้ในการการศัลยกรรมหน้าอกเป็นอย่างมากในประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะเพิ่งมีการนำเข้ามาได้ไม่นาน แต่แบรนด์ Motiva ก็ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ครองใจผู้ใช้งานหลาย ๆ คนไปได้ รวมถึงศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกเองก็ได้ด้วย เพราะเต็มไปด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่หลากหลายและส่งเสริมความเป็นธรรมชาติหลังการผ่าตัด ตัวอย่างเช่น
ProgressiveGel® : ทำให้เจลซิลิโคนมีความหนืดและยืดหยุ่นสูง ลื่นไหนตามการขยับของร่างกาย และยังให้ความเป็นธรรมชาติด้วย
SmoothSilk®/ SilkSurface® : ผิวสัมผัสแบบ Nano-texture surface™ (ผิวเรียบกึ่งผิวทราย) มีความละเอียดสูงมาก และยังมีความอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ ช่วยป้องกันการเกิดพังผืดหลังการเสริมซิลิโคนได้
Q Inside® : มีชิพ (Qid) ขนาด 12 มิลลิเมตร (mm.) ฝังในซิลิโคน สามารถใช้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลของสินค้า และเพื่อตรวจสอบล็อตการผลิดของซิลิโคน Motiva ว่าเป็นของแท้แน่หรือเปล่า
TrueMonobloc® – Shell and Patch is one structure ผิวซิลิโคนทนต่อแรงดึงสูง ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้เปลือก และแผ่นปิดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ก่อให้เกิดแรงเสียดทานระหว่างกัน ด้วยเทคโนโลยีนี้เองจึงทำให้ง่ายต่อการใส่ผ่านแผล
Dual Plane เป็นเพียงชื่อที่ใช้เรียกเพื่อส่งเสริมการขายเท่านั้น ไม่ได้เป็นเทคนิคเฉพาะแต่อย่างใด โดยข้อดีของการผ่าตัดเสริมหน้าอกแบบใต้กล้ามเนื้อคือ แผลจะหลบอยู่ใต้ราวนม มีความยาวเพียง 2-3 เซนติเมตร (cm.) เท่านั้น แถมยังให้สัมผัสที่นุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งอัตราการเกิดพังผืดน้อยกว่าการเสริมแบบเหนือกล้ามเนื้อ
วิธีเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก
วิธีดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมหน้าอก
หน้าอกหย่อยคล้อยจากการมีลูก การศัลยกรรมเสริมหน้าอกสามารถช่วยได้ไหม?
หากหน้าอกหย่อนคล้อยไม่มาก การเสริมหน้าอกซิลิโคนสามารถช่วยได้ แต่ถ้าคล้อยมากควรเข้ารับการ ผ่าตัดยกกระชับ แทน จะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากกว่า