อยากปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ เติมเต็มร่องลึก หรือเพิ่มความกระชับให้ผิว แต่ลังเลระหว่างโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ กับ โปรแกรมเติมไขมัน จะใช้วิธีไหนดี ? เพราะทั้งสองวิธีต่างมีข้อดีและเหมาะกับความต้องการที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าการเลือกแบบไหนจะตอบโจทย์ใบหน้าของคุณมากกว่ากัน

โปรแกรมฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า VS โปรแกรมเติมไขมันหน้าเด็ก คืออะไร ?
การเติมเต็มใบหน้าเพื่อเสริมความงามมี 2 วิธีหลักที่ได้รับความนิยม ได้แก่ โปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์และโปรแกรมการเติมไขมันหน้า ซึ่งแต่ละวิธีมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
1. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid – HA) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ตามธรรมชาติ เหมาะสำหรับใช้เติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม หน้าผาก รวมถึงการใช้ปรับรูปหน้าให้ดูละมุน หรือเพิ่มมิติในจุดต่าง ๆ เช่น คาง แก้ม ขมับ ซึ่งโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะมีข้อดีในด้านของผลลัพธ์ ที่สามารถเห็นได้ชัดเจนหลังทำ และสลายเองได้ภายใน 6-18 เดือน
2. โปรแกรมเติมไขมันหน้า (Fat Grafting)
โปรแกรมการเติมไขมัน เป็นการใช้ไขมันจากตัวเองที่ผ่านการดูดมาจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา แล้วนำมาปั่นแยก ก่อนฉีดกลับเข้าไปบริเวณที่ต้องการเติมเต็ม ซึ่งข้อดีคือไขมันจะมีสเต็มเซลล์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์ อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า แต่อาจมีบางส่วนของไขมันที่สลายไปได้ และต้องทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย
เปรียบเทียบฟิลเลอร์ vs เติมไขมัน แบบไหนดีกว่ากัน ?

แม้ว่าทั้งฟิลเลอร์และการเติมไขมันจะช่วยเติมเต็มใบหน้า อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย แต่ทั้งสองวิธีมีความแตกต่างในหลายด้าน ซึ่งควรพิจารณาให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละบุคคล ดังนี้
1. สารที่ใช้ในการเติมเต็ม
โปรแกรมฟิลเลอร์ เป็นการใช้สารสังเคราะห์ ที่นิยมใช้คือกรดไฮยาลูรอนิก (HA) ซึ่งเป็นสารที่สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติของร่างกาย ในขณะที่การเติมไขมันจะใช้ไขมันจากร่างกายของเราเอง จึงมีข้อดีในการลดโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้มากกว่า
2. วิธีการทำหัตถการ
โดยปกติการฉีดฟิลเลอร์จะใช้เทคนิคการฉีดเป็นจุดเล็ก ๆ แล้วปั้นให้ได้ทรงตามที่ต้องการ เช่น ปาก คาง จมูก หรือใต้ตา รวมไปถึงการฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิว หรืออาจวางชิดกระดูกเพื่อสร้างฐานให้เติมเต็ม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละเคส แต่ในส่วนการเติมไขมันหน้านั้น จะต้องฉีดกระจายหลายตำแหน่ง เพื่อให้ไขมันติดและมีเส้นเลือดมาเลี้ยง จึงต้องอาศัยความแม่นยำและประสบการณ์ของแพทย์ที่สูงกว่า
3. ผลลัพธ์และความคงทน
ฟิลเลอร์สามารถเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนหลังฉีด และอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน ก่อนจะค่อย ๆ สลายไปด้วยตัวเอง ในขณะที่การฉีดไขมันอาจต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 7-14 วัน แต่หากไขมันติดดี ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 3-10 ปี โดยไม่ต้องฉีดซ้ำบ่อย

ควรเลือกโปรแกรมไหนดี ให้เหมาะกับปัญหาใบหน้าของตัวเอง ?
การเลือกฉีดฟิลเลอร์หรือเติมไขมัน ไม่ได้มีคำตอบตายตัวว่าแบบไหนดีกว่ากัน เพราะขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคน รวมถึงลักษณะใบหน้าและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน โดยสามารถพิจารณาจากความเหมาะสมเบื้องต้น ดังนี้
โปรแกรมฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว ไม่อยากพักฟื้นนาน
- เหมาะสำหรับการเติมเต็มเฉพาะจุด เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ปาก คาง หรือขมับ
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าแบบละเอียด และต้องการความยืดหยุ่นในการแก้ไข สามารถฉีดสลายได้หากไม่พอใจ
โปรแกรมเติมไขมันหน้า
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ระยะยาว และใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์เป็นธรรมชาติ
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าตอบ แก้มตอบ โหนกแก้มเด่น หรือมีโครงหน้าที่ดูแข็ง ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้ใบหน้า
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูคุณภาพผิวควบคู่ไปด้วย เนื่องจากไขมันมีสเต็มเซลล์ที่ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและเรียบเนียน
ปรึกษาโปรแกรมทำสวยที่ใช่ พร้อมเสกลุคหน้าสวยละมุนที่ La Ferly Clinic ที่นี่เรามีทั้งโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ และโปรแกรมเติมไขมันหน้าเด็กเทคนิคเกาหลี หากสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม นัดปรึกษาฟรีและเข้ารับบริการได้ที่ La Ferly Clinic ทั้ง 6 สาขา ได้แก่ รังสิต สุทธิสาร บางนา ภูเก็ต อุดรธานี และขอนแก่น หรือโทร 098-889-2999 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน LINE: @laferlyclinic หรือ Website: www.laferlyclinic.com
ข้อมูลอ้างอิง
Fat Transfer vs. Dermal Fillers. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 จาก https://buckinghamfacialplastics.com/blog/fat-transfer-versus-dermal-fillers/

นพ.กิตติธัช สินพิพัฒน์พร (คุณหมอคิม) แพทย์เฉพาะทางด้านการปรับรูปหน้าด้วยไขมัน สำเร็จการศึกษาด้านตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับการอบรมเทคนิคดูดและเติมไขมันจากสถาบันที่มีชื่อเสียงในเกาหลีโดยตรง พร้อมมีประสบการณ์เฉพาะด้านในการออกแบบสัดส่วนเฉพาะบุคคล รวมถึงการปรับรูปหน้าด้วยโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ เพื่อมุ่งเน้นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากที่สุด