ใบหน้าคนเรามีกล้ามเนื้อมัดหลักอยู่ถึง 20 มัด และทำงานอยู่ตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่แสดงอารมณ์หรือความรู้สึก ไม่ว่าจะยิ้ม หัวเราะ พูดคุย นานวันเข้ามาถึงช่วงวัยหนึ่ง กล้ามเนื้อเหล่านี้ก็ก่อให้เกิดเป็นริ้วรอยและรอยย่นบนใบหน้า ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ภาพรวมใบหน้าของเรานั้นดูมีอายุ การฉีดโบท็อกจึงเป็นวิธีหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้รอยย่นสะสมตัวลึกขึ้น และแก้ไขริ้วรอยให้ดูจางลง หลายคนอาจมีคำถามว่าเมื่อไหร่ดีที่ควรฉีด Botox ควรรอให้อายุถึงวัยเท่าไหร่ หรือต้องเห็นริ้วรอยชัดเจนขึ้นก่อนหรือไม่ การตอบคำถามว่าอายุเท่าไหร่ควรเริ่มฉีดโบท็อกถึงจะดีที่สุด จึงขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
Preventative Botox คืออะไร
เริ่มทำความเข้าใจกันก่อนว่า โบท็อก (Botox) เป็นหัตถการที่ช่วยทั้งป้องกันและลดเลือนริ้วรอย
ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยการฉีดโบท็อกเป็นการฉีดสาร Botulinum toxin ซึ่งทำหน้าที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เพราะธรรมชาติของกล้ามเนื้อบนใบหน้านั้นมีการขยับเขยื้อนอยู่ตลอดเวลา ทั้งหดตัวและเกร็งตัวทุกครั้งที่แสดงสีหน้าและอารมณ์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อถึงช่วงวัยหนึ่ง ใบหน้าของเราจะปรากฏร่องรอยจางๆ ให้เห็น นานวันเข้าเมื่อเราแก่ตัวมากขึ้น ริ้วรอยเหล่านี้ก็ยิ่งดูลึกขึ้นมากไปด้วย กลายเป็นร่องตีนกา ร่องคิ้ว และรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผากและบริเวณต่างๆ บนใบหน้าในที่สุด
เพราะเหตุนี้ Preventative Botox จึงเป็นการฉีดโบท็อกเพื่อป้องกันการสะสมริ้วรอยบนใบหน้าและลดเลือนรอยย่นไม่ให้ลึกขึ้น เข้าจัดการกับร่องรอยการทำงานกล้ามเนื้ออย่างตรงจุด ให้กล้ามเนื้อที่ขยับตัวอย่างต่อเนื่องซ้ำๆ ตลอดเวลาผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น การเริ่มฉีด Botox ตั้งแต่เนิ่นๆ จึงช่วยลดปริมาณการฉีดโบท็อกเมื่ออายุมากขึ้นนั่นเอง
ฉีดโบท็อก ตอนอายุเท่าไหร่ถึงจะดี
ด้วยไลฟ์สไตล์และพื้นฐานสุขภาพผิวหน้าที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน เมื่อไหร่ถึงจะเหมาะสมที่สุดที่จะฉีดโบท็อกจึงไม่มีตัวเลขอายุที่ตายตัว ถึงอย่างนั้น สำหรับใครที่กังวลเรื่องรูปลักษณ์ใบหน้า เมื่อไหร่ที่เริ่มสังเกตเห็นริ้วรอยจางๆ ก็อาจมองหาตัวช่วยคงความอ่อนวัยให้ใบหน้าด้วยการฉีด Botox เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหารอยย่นที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งการฉีดโบท็อกในแต่ละช่วงอายุ จะให้ผลแตกต่างกัน ดังนี้
ฉีดโบท็อกตอนอายุ 20 ดีไหม ได้ผลอะไรบ้าง
ปกติแล้วในช่วงวัย 20 ต้นๆ ผิวหน้าของคนเรายังคงเปล่งปลั่งไร้ริ้วรอยไปจนกว่าจะถึงช่วงย่างเข้า อายุ 30 ที่ Dynamic Lines หรือ รอยย่นบนใบหน้าที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ต่างๆ จะเริ่มปรากฏให้เห็นจางๆ การฉีดโบท็อกในอายุช่วงนี้จึงช่วยป้องกันริ้วรอยเหี่ยวย่นตั้งแต่เนิ่นๆ
อย่างที่รู้ว่าโบท็อกจะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ริ้วรอยที่ก่อตัวก็จะไม่สะสมจนเป็นร่องลึกเกินไป โดยทั่วไปแล้วการฉีด Botoxในช่วงวัย 20 จึงจะเน้นบริเวณรอยย่นหน้าผากมากกว่าปัญหาอื่นๆ ที่ยังไม่ปรากฏให้เห็นชัด
ฉีดโบท็อกตอนอายุ 30 ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
การฉีด Botox ในช่วงวัยอายุ 30 เป็นต้นไปเป็นการเริ่มเจาะลึกปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นที่สะสมมาตั้งแต่วัย 20 อย่างจริงจัง เช่น รอยย่นระหว่างคิ้วที่เกิดจากการขมวดคิ้ว รอยตีนกา ไปจนถึงรอยย่นบริเวณปากจากการสูบบุหรี่ (Smoker Lines) ก็สามารถจัดการไม่ให้ริ้วรอยเหล่านี้ลึกขึ้นด้วยโบท็อกได้เช่นกัน
ฉีดโบท็อกตอนอายุ 40 ได้ผลไหม
อายุ 40 เป็นช่วงวัยที่ริ้วรอยเหี่ยวย่นทั่วทั้งใบหน้าก่อตัวเป็นร่องลึกอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อเป็นการสะสมตัวของริ้วรอยมากอย่างยาวนาน นอกเหนือจาก รอยย่นระหว่างหน้าผาก รอยตีนกา ริ้วรอยที่คนวัย 40 ต้องเผชิญอย่างเลี่ยงไม่ได้เลยคือ marionette lines หรือ ร่องน้ำหมาก ซึ่งเป็นริ้วรอยที่ลากยาวตั้งแต่จมูกถึงปาก เช่นเดียวกันกับ barcode lip lines หรือ รอยย่นเหนือริมฝีปาก
การฉีดโบท็อกในวัย 40 จึงต้องอาศัยหัตถการลดเลือนริ้วรอยอย่างการฉีดฟิลเลอร์ร่วมด้วยเพื่อช่วยเติมเต็มความเต่งตึงของผิวหน้าที่ลดลงตามอายุ ช่วยให้ผิวกลับมาดูอิ่มเต็มและอ่อนวัยมากยิ่งขึ้น
ฉีดโบท็อกตอนอายุ 50 ช่วยให้หน้าดูเด็กลงได้ไหม
ตั้งแต่อายุ 50 เป็นต้นไป การฉีดโบท็อกจะช่วยตอบโจทย์เรื่องการแก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าให้สภาพผิวกลับมาดูสดใสอ่อนกว่าวัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่เข้าสู่ช่วง menopause ซึ่งส่งผลให้ผิวแห้ง ง่ายต่อการเกิดริ้วรอย เพราะผิวยืดหยุ่นน้อยลงและสูญเสียคอลลาเจนมากขึ้น
การฉีด Botox ร่วมกับ การฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยให้รอยย่นต่างๆ ที่สะสมกันยกกระชับพร้อมกับเพิ่มความเต่งตึงให้กับผิว ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวหน้าที่ดูอ่อนวัยเป็นธรรมชาติ มีความสุขและความสวยดูดีได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อรับบริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐานน่าเชื่อถือ
ลา เฟอร์ลี่ คลินิก ได้รับมาตรฐานกึ่งโรงพยาบาล มีห้องผ่าตัด และเครื่องมือที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล ดูแลการดูดไขมันโดยทีมแพทย์ที่ชำนาญด้านไขมันโดยตรงพร้อมประสบการณ์ดูดไขมันมากกว่า 15,000++เคส และได้รับการอบรบจากประเทศเกาหลีที่เป็นอันดับ 1 ด้านศัลยกรรม นอกจากนี้ เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์สามารถตรวจสอบได้ พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่มีความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรม การใช้เครื่องมือทางการแพทย์ รวมถึงเทคนิคหัตถการที่ทันสมัยบนพื้นฐานของความปลอดภัย และพึงพอใจของผู้รับบริการ
ที่มาข้อมูล