เมื่อริ้วรอยปรากฏชัดบนใบหน้า มักจะทำให้คุณดูแก่กว่าวัยและขาดความสดใส ซึ่งอาจส่งผลต่อบุคลิกภาพโดยรวม ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน และความสัมพันธ์กับผู้อื่น ดังนั้น การทำความเข้าใจถึงสาเหตุและเลือกวิธีแก้ไขที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณจัดการกับปัญหาริ้วรอยได้ในบริเวณที่ต้องการ และกลับมามีผิวที่แลดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง
ทำไมริ้วรอยถึงไม่หายสักที ?
ริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนใบหน้ามักเกิดจาก 4 สาเหตุหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
- คอลลาเจนและอีลาสตินลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินลดน้อยลงตามธรรมชาติ ทำให้ผิวค่อย ๆ สูญเสียความยืดหยุ่นและความกระชับ ส่งผลให้หน้ามีริ้วรอยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
- แสงแดดและมลภาวะ
การโดนแสงแดดโดยไม่มีการปกป้องผิวที่เพียงพอ อาจทำให้เกิดการสะสมของรังสี UV ซึ่งสามารถทำลายโครงสร้างคอลลาเจน จนส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยก่อนวัย เช่นเดียวกับมลภาวะในอากาศที่สามารถทำร้ายเซลล์ผิวและเร่งกระบวนการเสื่อมของผิวได้
- การแสดงอารมณ์หรือการขยับกล้ามเนื้อหน้า
การแสดงออกทางสีหน้า เช่น การยิ้ม หัวเราะ หรือขมวดคิ้วซ้ำ ๆ เป็นประจำ สามารถก่อให้เกิดรอยย่นในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวได้ โดยเฉพาะรอบดวงตาและร่องแก้ม ซึ่งเมื่อผิวสูญเสียความยืดหยุ่น รอยเหล่านี้จะกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ยากขึ้น
- การดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม
การละเลยการดูแลผิวพรรณ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดที่ไม่ถูกวิธีหรือการไม่ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ ล้วนเป็นปัจจัยเร่งให้ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดริ้วรอยได้เร็วกว่าปกติ
6 วิธีลดริ้วรอยบนใบหน้า ผิวเรียบเนียน เพิ่มความกระจ่างใส
แม้ว่าจะไม่สามารถหยุดยั้งกระบวนการเกิดริ้วรอยได้ 100% แต่ก็มีวิธีที่ช่วยชะลอและลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าให้จางลงได้ ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว การดูแลจากภายใน และการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ มาดูกันว่าวิธีไหนเหมาะกับคุณบ้าง
1. ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ (Retinoid)
เรตินอยด์ เป็นสารที่ได้จากวิตามินเอ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่า และเร่งการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแข็งแรงและริ้วรอยดูตื้นขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอยด์เป็นประจำจึงสามารถช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้นได้
วิธีใช้
- เริ่มต้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นต่ำก่อน เพื่อให้ผิวค่อย ๆ ปรับตัว
- ใช้เฉพาะตอนกลางคืน และตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อป้องกันการระคายเคือง
- อย่าลืมทาครีมกันแดดตอนเช้า เพราะเรตินอยด์ทำให้ผิวไวต่อแสง
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid)
กรดไฮยาลูรอนิก เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ มีหน้าที่อุ้มน้ำและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว โดยเมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณกรดไฮยาลูรอนิกในผิวจะลดลง ส่งผลให้ผิวแห้งและเกิดริ้วรอยได้ง่าย ดังนั้น การใช้เซรัมหรือครีมที่มีกรดไฮยาลูรอนิกจึงสามารถช่วยเติมความชุ่มชื้นและทำให้ริ้วรอยดูจางลงได้
วิธีใช้
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีกรดไฮยาลูรอนิกรูปแบบโมเลกุลขนาดเล็ก เพื่อให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
- ทาบนผิวที่หมาด ๆ หลังล้างหน้า เพื่อให้กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดียิ่งขึ้น
3. ทาครีมกันแดดทุกวัน
แสงแดด เป็นตัวการหลักที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เนื่องจากรังสี UV สามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้น การใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ จึงเป็นวิธีช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำลาย ซึ่งลดการเกิดริ้วรอยใหม่ได้ดี
วิธีใช้
- เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และมี PA+++ ขึ้นไปเพื่อป้องกันรังสี UVA และ UVB
- ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หากต้องอยู่กลางแดดนาน ๆ
4. นวดหน้าและทำทรีตเมนต์ผิวหน้า
การนวดหน้าช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวกระชับและลดริ้วรอยได้ หากทำทรีตเมนต์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีหรือสารต้านอนุมูลอิสระ ก็จะยิ่งช่วยฟื้นฟูผิวและเพิ่มความกระจ่างใสไปพร้อมกัน
วิธีดูแล
- นวดหน้าวันละ 5-10 นาที โดยใช้น้ำมันหรือน้ำตบ เพื่อให้นวดบนผิวได้ง่าย
- เลือกทรีตเมนต์ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน เช่น IPL เลเซอร์ หรือการทำไอออนโต
5. เข้าโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์
หากริ้วรอยเริ่มลึกจนการบำรุงทั่วไปไม่สามารถฟื้นฟูผิวได้ทันใจ อีกหนึ่งวิธีที่ลบริ้วรอยบนใบหน้าได้ดีก็คือการใช้หัตถการทางการแพทย์ เช่น ฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ เนื่องจากวิธีนี้สามารถแก้ไขริ้วรอยได้ตามจุดที่ต้องการ และให้ผลลัพธ์ชัดเจนในเวลาอันรวดเร็ว
- โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ช่วยเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา ทำให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น
- โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ ช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่เกิดริ้วรอย เช่น หน้าผาก หางตา ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
6. ฉีดไขมันหน้าเด็ก
การฉีดไขมันหน้าเด็ก (Fat Grafting) เป็นวิธีเติมเต็มและปรับลักษณะใบหน้าให้แลดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยใช้ไขมันจากร่างกายของตัวเอง ซึ่งวิธีนี้ไม่เพียงช่วยลดริ้วรอยร่องลึก แต่ยังช่วยปรับผิวให้ดูอิ่มน้ำและสุขภาพดีขึ้นได้
ขั้นตอนการทำ
- นำไขมันออกจากส่วนที่มีไขมันสะสม เช่น หน้าท้อง ต้นขา
- คัดแยกเฉพาะไขมันที่สมบูรณ์ แล้วนำมาฉีดกลับเข้าไปบริเวณใบหน้า
- หลังทำ ผิวจะดูอิ่มฟูและริ้วรอยลึกจะดูตื้นขึ้น
ข้อดี
- ใช้ไขมันตัวเอง ลดโอกาสแพ้
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
- อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป (บางส่วนอยู่ถาวร)
การเติมไขมันหน้าเด็กเป็นหนึ่งในหัตถการทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยเฉพาะที่ La Ferly Clinic ซึ่งดำเนินการโดย นพ.กิตติธัช สินพิพัฒน์พร (คุณหมอคิม) และทีมแพทย์ชำนาญการด้านการปรับรูปหน้าด้วยไขมัน
ที่ลา เฟอร์ลี่ คลินิก เราใช้วิธีคัดแยกเฉพาะไขมันที่มี Stem Cell สูงมาเติม ส่งผลให้ไขมันมีอัตราการติดที่ดีกว่าปกติ พร้อมด้วยการใช้เครื่อง Body Jet ที่ดึงไขมันออกโดยไม่ใช้ความร้อน จึงรักษาคุณภาพของเซลล์ไขมันได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ เครื่องมือทั้งหมดของเราได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย และเรายังมีแผนก After Care ที่ติดตามผลและดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการรักษา
หากสนใจ สามารถนัดปรึกษาฟรีได้ที่ La Ferly Clinic ทั้ง 4 สาขา โดยเราเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. และหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่โทร 098-889-2999 หรือผ่าน LINE: @laferlyclinic
ข้อมูลอ้างอิง
- Treatments to Reduce Wrinkles. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 จาก https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/8411-treatments-to-reduce-wrinkles.
- How to Get Rid of Wrinkles. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 จาก https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/how-to-get-rid-of-wrinkles.
- Surprising Ways to Reduce Wrinkles. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 จาก https://www.webmd.com/beauty/ss/slideshow-reducing-wrinkles.
นพ.กิตติธัช สินพิพัฒน์พร (คุณหมอคิม) แพทย์เฉพาะทางด้านการปรับรูปหน้าด้วยไขมัน สำเร็จการศึกษาด้านตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับการอบรมเทคนิคดูดและเติมไขมันจากสถาบันที่มีชื่อเสียงในเกาหลีโดยตรง พร้อมมีประสบการณ์เฉพาะด้านในการออกแบบสัดส่วนเฉพาะบุคคล รวมถึงการปรับรูปหน้าด้วยโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ เพื่อมุ่งเน้นผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากที่สุด
