เมื่อพูดถึงความสมบูรณ์ของใบหน้า หลายคนมักนึกถึงดวงตา ริมฝีปาก ร่องแก้ม จนอาจไม่ทันสังเกตว่า ‘ขมับ’ ก็มีส่วนสำคัญต่อรูปหน้าและความอ่อนเยาว์เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น บริเวณนี้อาจเริ่มยุบตัวลง ก่อให้เกิดความไม่สมดุลและบดบังความสดใสของใบหน้า โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับ จึงเป็นวิธีที่จะช่วยเติมเต็มพื้นที่บริเวณนี้ให้กลับมาอิ่มเอิบและได้รูปทรงสวยงาม ทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสดใส มีชีวิตชีวาขึ้น โดยไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลา
ขมับตอบ ขมับลึก เป็นลักษณะที่ขมับบริเวณข้างหางตา เหนือโหนกแก้ม มีลักษณะยุบ หรือเว้าเข้าไป ทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุล ขาดมิติ หรือดูแก่กว่าวัย โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านข้าง ซึ่งขมับที่ยุบตัวลงจะทำให้โหนกแก้มดูเด่นชัดเกินไป ส่งผลต่อความละมุนของใบหน้าโดยรวม โดยสามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
ขมับตอบสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้โดยตรง เด็กที่มีพ่อแม่ใบหน้าตอบ หรือแคบ มักมีแนวโน้มจะมีขมับตอบตั้งแต่ยังอายุน้อย
เมื่อเข้าสู่วัย 30 ปีขึ้นไป ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ไขมันใต้ผิวหนังเริ่มสลายตัว รวมถึงกระดูกบริเวณกะโหลกศีรษะก็จะเริ่มยุบตัวลงตามธรรมชาติ ส่งผลให้ขมับที่เคยเต็มกลับดูเว้าแหว่งมากขึ้น
สำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด ไขมันใต้ผิวหนังจะหายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งรวมถึงไขมันบริเวณขมับ ทำให้ใบหน้าดูโทรมและตอบมากขึ้น
ผู้ที่มีโหนกแก้มเด่น หรือโครงหน้าเรียวยาว มักมีขมับที่เว้าลึกโดยธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าดูแข็ง ไม่ละมุน ส่งผลต่อภาพรวมของความอ่อนเยาว์และความสมดุล
แม้ปัญหาขมับตอบจะไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง แต่มีผลต่อภาพลักษณ์และความมั่นใจอย่างมาก โดยเฉพาะในการถ่ายรูปที่เห็นมุมข้าง หรือการแต่งหน้าที่ต้องเน้นส่วนสำคัญ การแก้ไขปัญหานี้จึงมักเลือกใช้วิธีการเติมเต็ม เช่น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องลึกบริเวณขมับ เพื่อให้ใบหน้าดูอิ่มฟูมากขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์ขมับ คือการฉีดสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปบริเวณขมับ เพื่อแก้ไขปัญหาขมับตอบ ขมับลึกที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม โดยการฉีดขมับด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มให้รูปหน้ากลับมาสมดุล รับกับโหนกแก้มและกรอบหน้า ทำให้ใบหน้าดูได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับมีจุดประสงค์หลักเพื่อแก้ไขความไม่สมดุลของใบหน้าที่เกิดจากการเว้าลึกของขมับ ซึ่งมักเป็นจุดที่หลายคนมองข้าม ทั้งที่ส่งผลต่อสัดส่วนของใบหน้าโดยรวมอย่างมาก โดยโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับสามารถช่วยแก้ปัญหาได้ ดังนี้
การเติมฟิลเลอร์บริเวณขมับสามารถคืนความอิ่มฟูให้ใบหน้า โดยเฉพาะในกรณีที่ขมับลึกจนทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ไม่มีชีวิตชีวา
ขมับที่ได้รับการเติมเต็มจะช่วยให้ใบหน้าระหว่างหน้าผาก โหนกแก้ม และกรามดูรับกันมากขึ้น ทำให้รูปหน้าโดยรวมดูสมดุล
สำหรับผู้ที่มีโหนกแก้มชัด ขมับลึก จะยิ่งเน้นให้โหนกแก้มดูสูงเกินไป การเติมขมับจะช่วยลดความคมของโหนกแก้ม และทำให้ใบหน้าดูอ่อนโยนขึ้น
เมื่อขมับเว้าเข้าไป ใบหน้าจะแลดูสูญเสียความนุ่มนวลและดูมีอายุ การเติมเต็มด้วยโปรแกรมการฉีดฟิลเลอร์จึงช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
ขมับที่อิ่มเอิบสามารถสร้างความมีมิติให้แก่ใบหน้า ทำให้หน้าดูมีโครงสร้างชัดเจนแต่ไม่แข็ง ช่วยให้การแต่งหน้า หรือถ่ายรูปออกมาดูดีขึ้นได้
การฉีดขมับไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสำหรับทุกคน แต่จะให้ผลลัพธ์ดีที่สุดกับผู้ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
ไม่ว่าจะเกิดจากพันธุกรรม อายุ หรือการลดน้ำหนัก การฉีดสารเติมเต็มจะช่วยปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูสมดุลมากขึ้นได้
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับช่วยให้ใบหน้าดูละมุน ลดความคมของโหนกแก้ม เพิ่มความกลมกลืนของรูปหน้า
โปรแกรมฟิลเลอร์ เป็นทางเลือกที่รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น โดยให้ผลลัพธ์ชัดเจน เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย หรือไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณขมับสามารถปรับลุคให้ดูละมุน เหมาะกับการถ่ายภาพในช่วงเวลาสำคัญ
หากไม่แน่ใจว่าตนเองเหมาะกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินใบหน้าและเข้ารับคำแนะนำในการเลือกแผนการรักษาที่เหมาะสม
ปริมาณที่ใช้ในการฉีดขมับขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาและความลึกของขมับแต่ละคน โดยทั่วไปจะใช้ประมาณ 1-2 CC ต่อข้าง หากขมับลึกมากอาจใช้สูงถึง 3 CC ต่อข้าง การประเมินปริมาณที่เหมาะสมควรให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาโดยตรง
การฉีดสารเติมเต็มขมับ ถือว่าเป็นหัตถการที่มีการดูแลให้ปลอดภัย หากทำโดยแพทย์ที่เข้าใจโครงสร้างของใบหน้า โดยมีความชำนาญการและประสบการณ์เฉพาะทาง ผ่านการประเมินสภาพใบหน้าอย่างละเอียดก่อนทำทุกครั้ง พร้อมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสมกับปัญหา
ซึ่งถึงแม้ว่าโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับจะค่อนข้างมีความปลอดภัย แต่การฉีดขมับก็มีสิ่งที่ต้องระวังอยู่ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดขนาดใหญ่หลายเส้น การเตรียมตัวและเลือกสถานบริการที่ได้มาตรฐานจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้การฉีดสารเติมเต็มบริเวณขมับปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
โดยทั่วไปโปรแกรมฟิลเลอร์ขมับถือว่าเป็นหัตถการที่มีความเสี่ยงต่ำเมื่อทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้า อย่างไรก็ตาม หลังการฉีดอาจเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อยซึ่งเป็นอาการชั่วคราวและมักจะหายได้เองภายในไม่กี่วัน ดังนี้
อาการเหล่านี้พบได้บ่อยในช่วง 1-3 วันแรกหลังฉีด และสามารถบรรเทาได้ด้วยการประคบเย็น หรืองดกิจกรรมที่เพิ่มการไหลเวียนโลหิต เช่น การนวดหน้า หรือออกกำลังกายหนัก
บางรายอาจมีความรู้สึกตึงเล็กน้อยจากแรงดันของฟิลเลอร์ที่เข้าไปเติมเต็ม ซึ่งจะลดลงเมื่อฟิลเลอร์เซตตัวเข้าที่ภายในไม่กี่วัน
โดยทั่วไปไม่รุนแรง และสามารถรับประทานยาพาราเซตามอลเพื่อบรรเทาได้
หากมีอาการบวมแดงร้อนบริเวณที่ฉีด มีไข้ หรือมีหนอง ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
เพื่อให้ผลลัพธ์ของการฉีดสารเติมเต็มอยู่ตัวได้ดีและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการฉีดอย่างเคร่งครัด ดังนี้
การเติมเต็มบริเวณขมับให้ดูอิ่มฟูและสมส่วนสามารถทำได้ 2 วิธีหลัก ได้แก่ การฉีดสารเติมเต็มและการเติมไขมันขมับ โดยแต่ละวิธีมีจุดเด่นและความเหมาะสมที่แตกต่างกัน ดังนี้
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ร่องขมับเป็นการใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid: HA) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย มาฉีดบริเวณขมับเพื่อแก้ไขขมับลึก ปรับรูปหน้าให้สมดุลขึ้น โดยมีข้อดีที่น่าสนใจ ได้แก่
โดยฟิลเลอร์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 12-18 เดือน ซึ่งผลลัพธ์จะแตกต่างออกไปตามสภาพผิวหน้า การดูแล รวมถึงยี่ห้อที่ใช้ในการฉีด จึงต้องเติมซ้ำหากต้องการคงผลลัพธ์ไว้ให้ยาวนาน
การเติมไขมันขมับ คือ การนำไขมันจากร่างกายของผู้เข้ารับบริการ เช่น จากหน้าท้อง หรือต้นขา มาปั่นแยกให้บริสุทธิ์ แล้วเติมกลับเข้าไปในบริเวณขมับเพื่อเติมเต็มพื้นที่ที่เว้า โดยมีข้อดีที่น่าสนใจ ได้แก่
แต่การเติมไขมันจะต้องมีขั้นตอนในการดูดเสียก่อน รวมถึงต้องพักฟื้นประมาณ 5-7 วัน อาจมีอาการบวมและช้ำจากจุดที่ดูดไขมันและจุดที่ฉีด อีกทั้งผลลัพธ์ยังไม่แน่นอน ไขมันอาจมีโอกาสไม่ติด หรือสลายไปบางส่วนได้
การเลือกวิธีเติมเต็มขมับควรขึ้นอยู่กับเป้าหมายของผลลัพธ์ ไลฟ์สไตล์ รวมถึงความสะดวกของแต่ละบุคคล ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจจะช่วยให้ได้วิธีที่นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ตรงใจได้มากที่สุด
การเลือกคลินิกที่ให้บริการฉีดสารเติมเต็มบริเวณขมับ ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพราะบริเวณขมับเป็นจุดที่มีเส้นเลือดจำนวนมาก หากฉีดโดยไม่มีความรู้เฉพาะทาง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ยากต่อการแก้ไขได้ ดังนั้น การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและดำเนินการโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการปรับรูปหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ คลินิกที่เหมาะสมสำหรับการฉีดขมับ ควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
แพทย์ควรมีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง และมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์โดยตรง เพื่อการวิเคราะห์ปัญหาใบหน้าและวางแผนการฉีดที่แม่นยำ
ฟิลเลอร์ที่คลินิกใช้ควรสามารถตรวจสอบ Lot Number และ Serial Number ได้อย่างโปร่งใส เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับบริการ
คลินิกควรมีรีวิวภาพก่อน-หลัง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจและคุณภาพในการให้บริการ
การฉีดสารเติมเต็มบริเวณขมับ ต้องอาศัยความเข้าใจในโครงสร้างใบหน้า การประเมินปัญหาอย่างละเอียด โดยใช้เทคนิคการฉีดที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ขมับที่ La Ferly Clinic ออกแบบโดยใช้เอกลักษณ์ของแต่ละบุคคลเพื่อปรับรูปหน้าให้สมดุล ซึ่งดำเนินการโดยแพทย์ในทุกเคส ด้วยกระบวนการที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ดังนี้
ใช้เฉพาะฟิลเลอร์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยเท่านั้น
การทำหัตถการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แต่ละครั้ง จะมีการวิเคราะห์ปัญหาใบหน้าอย่างละเอียด เพื่อกำหนดตำแหน่งและระดับชั้นผิวที่เหมาะสม
ใช้เข็มปลายทู่ในการฉีด เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดรอยช้ำ และเพิ่มความปลอดภัยระหว่างทำหัตถการ
หลังการฉีดจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ปรับตัวกลมกลืนกับผิวในช่วง 1-2 สัปดาห์ โดยทั่วไปจะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลหลังทำของแต่ละบุคคล
ปัญหาขมับตอบ อาจทำให้ใบหน้าไม่มีมิติ หรือรูปหน้าดูแข็ง ไม่ละมุน หากกำลังมองหาวิธีปรับรูปหน้าให้สมดุลและดูสดใสขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลทันที โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ขมับอาจเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุด
ในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด ควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพื่อป้องกันแรงกดทับที่อาจทำให้สารเติมเต็มเคลื่อนที่ผิดรูป หลังจากนั้นสามารถกลับมานอนได้ตามปกติ
สามารถทำได้ แต่ต้องผ่านการประเมินโดยแพทย์ก่อนว่าเนื้อเยื่อมีความพร้อม หรือมีข้อจำกัดจากการเติมไขมันเดิมหรือไม่
สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะในผู้ที่มีโครงหน้าแคบ ขมับลึก หรือเริ่มมีปัญหาขาดมิติของใบหน้าเนื่องจากอายุที่มากขึ้น
สามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติในวันถัดไปหลังฉีด โดยควรหลีกเลี่ยงการกดนวดในบริเวณที่ฉีด และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องเผชิญกับความร้อนจัดในช่วง 5-7 วันแรก
ที่ La Ferly Clinic เราใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งความปลอดภัย เทคนิคการฉีดเฉพาะบุคคล พร้อมการเลือกใช้ยี่ห้อและปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคลมากที่สุด โดยยินดีให้คำปรึกษาอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้ารับบริการได้ที่ La Ferly Clinic ทั้ง 6 สาขา ได้แก่ รังสิต สุทธิสาร บางนา ภูเก็ต อุดรธานี และขอนแก่น หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน LINE: @laferlyclinic หรือ Website: www.laferlyclinic.com