บริการดูดไขมันแขน ต้นขา และหน้าท้อง พร้อมปรับรูปร่างที่ La Ferly Clinic มั่นใจในผลลัพธ์ความเฟิร์ม ให้หุ่นสวยด้วยเทคนิคทันสมัยจากประเทศเกาหลี พร้อมช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยแพทย์ผู้ชำนาญที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน นอกจากนี้เรายังนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาใช้เพื่อช่วยให้คุณได้รูปร่างที่ต้องการโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน พร้อมดูแลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับทุกเคส
อย่างไรก็ตาม “การดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนัก” เนื่องจากปริมาณของที่ไขมันที่ดูดออกมามีน้ำหนักประมาณ 2-4 กิโลกรัมเท่านั้น แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดกว่าน้ำหนักที่ลดลงนั้น คือสัดส่วนที่เล็กลงทันที และกระชับขึ้นได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง
ผู้ที่มีความกังวลในสัดส่วน หรือรูปร่างของตัวเอง เช่น มีไขมันสะสมในบางจุดที่ไม่สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหารเพียงอย่างเดียว ผู้ที่มีระบบการเผาผลาญต่ำหรือไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย รวมถึงผู้ที่มีไขมันสะสมในบริเวณเฉพาะ เช่น หน้าท้อง แขน ต้นขา ทำให้รูปร่างไม่สมส่วนทำให้แต่งตัวแล้วไม่มั่นใจ
รวมถึงผู้ที่มีไขมันสะสมในบางจุดมากกว่าส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย สาเหตุเกิดได้จากพันธุกรรม หรือพฤติกรรมการกิน ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีหน้าท้องแบนราบแต่ขาใหญ่, ขาใหญ่แต่แขนเล็ก, ตัวผอมแต่เหนียงเยอะ ดังนั้นการดูดไขมันเฉพาะส่วนจึงเป็นคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันหน้าท้อง สร้างร่องสิบเอ็ด หรือการดูดไขมันแขน ดูดไขมันต้นขา ก็จะช่วยลดสัดส่วนเฉพาะจุดให้แก่ผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้ได้อย่างตอบโจทย์
ผู้ที่มีโรคประจำตัว ดังนี้ โรคเส้นเลือดหัวใจ, โรคเส้นเลือดสมอง, โรคแพ้ภูมิตัวเอง, โรคเบาหวานที่ยังควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้, โรคไทรอยด์ที่ยังควบคุมระดับไม่ได้
โดยผู้ที่มีโรคประจำตัวดังกล่าวนี้ โดยรวมจะถือเป็นผู้ที่มีภาวะหัวใจที่ไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้มีความเสี่ยงสูง ไม่ควรเข้ารับการผ่าตัดดูดไขมันแขน ขา หรือหน้าท้อง เพราะเนื่องจากระหว่างทำการผ่าตัด แพทย์มีการฉีดอะดรีนาลีน (Adrenaline) เข้าไปในชั้นไขมันเพื่อหดตัวเส้นเลือด ทำให้เลือดออกน้อยขณะดูดไขมัน ซึ่งตัวยานี้ จะไปกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้ทำงานหนักขึ้น อาจส่งผลทำให้คนไข้ที่มีโรคประจำตัวดังกล่าวมีอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ จนกระทั่งหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจวายได้
เป็นไขมันที่พบได้บริเวณใต้ผิวหนังของเรา หากมีไขมันใต้ผิวหนังสะสมอยู่ตามร่างกายในเกณฑ์ปกติ จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ แต่หากมีไขมันสะสมอยู่เยอะมากเกินไป อาจทำให้อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ มีโอกาสก่อเกิดโรคเบาหวาน, ความดันสูง, โรคหัวใจ, ภาวะกล้ามเนื้อหย่อนคล้อย และส่งผลทางด้านกายภาพ ทำให้ไม่ได้สัดส่วนรูปร่างตามที่ต้องการ ไขมันชนิดนี้จะสะสมอยู่ระหว่างผิวหนังและกล้ามเนื้อ สามารถใช้วิธีดูดไขมันหน้าท้องออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาได้ โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ไขมันชนิดนี้เกิดจากการสะสมสารอาหารประเภทไขมันที่เข้าสู่ร่างกายเป็นจำนวนมากเกินไป ได้แก่ อาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต, น้ำตาล เมื่อร่างกายไม่สามารถเผาผลาญได้หมดในแต่ละวัน ก็จะแปรรูปเป็นไขมัน และเข้าไปเกาะติดอยู่ตามอวัยวะภายในต่าง ๆ เช่น กระเพาะอาหาร, ลำไส้, ตับ, ไต รวมถึงกล้ามเนื้อหน้าท้อง เมื่อเวลาผ่านไป ไขมันชนิดนี้ก็จะมีความแข็งตัวมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งดันหน้าท้องให้ยื่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด หรือมีลักษณะท้องป่อง ไขมันในช่องท้องอยู่ใต้กล้ามเนื้อ บริเวณอวัยวะภายในของร่างกาย ซึ่งไขมันชนิดนี้ “ไม่สามารถดูดออกมาได้” เนื่องจากจะทำให้เป็นอันตรายต่ออวัยวะภายใน
นวัตกรรมเครื่องดูดไขมัน
คลินิกของเราเลือกใช้เครื่อง Vaser ในโปรแกรม Liposuction เพราะเป็นนวัตกรรมเครื่องดูดไขมันที่มีพลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ (Ultrasound) ทำหน้าที่เข้าไปสลายไขมันทำให้ก้อนไขมันแตกตัวออก และสลายกลายเป็นของเหลวใต้ผิวหนัง คลื่นอัลตราซาวนด์เป็นคลื่นพลังงานที่มีความปลอดภัยสูง และนิยมใช้ในวงการแพทย์มานานหลายปี ทั้งในเรื่องความงามและการรักษาโรค
เครื่องดูดไขมัน Vaser ช่วยให้แพทย์ดูดไขมันออกมาได้อย่างนุ่มนวล และง่ายดาย ทำให้การสลายไขมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะคลื่นเสียงความถี่จาก Vaser จะเข้าไปสลายไขมัน และดูดไขมันที่แตกตัวแล้วออกมา โดยที่เส้นเลือดและเซลล์ประสาทและเนื้อเยื่อเซลล์รอบข้างได้รับความเสียหายน้อยที่สุด หลีกเลี่ยงการส่งผลกระทบกับเนื้อเยื่อบริเวณอื่น เช่น เส้นเลือด เส้นประสาท จึงทำให้เกิดการบาดเจ็บน้อย และลดระยะเวลาในการดูดไขมันได้เป็นอย่างดี
เครื่อง Vaser สามารถดูดไขมันได้ในปริมาณมาก แทบจะไม่เหลือไขมันตกค้าง เห็นผลเร็วและชัดเจน ลดปัญหาเรื่องผิวเป็นโพรง เพราะเนื้อเยื่อคอลลาเจนพยุงผิวไม่ได้ถูกทำลายไป ทำให้คนไข้สามารถฟื้นตัวได้ดี แผลหายได้อย่างรวดเร็ว และมีรอยช้ำน้อยมากหลังทำสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
Body Tite คือเครื่องดูดไขมันคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) ที่ใช้เทคโนโลยี RFAL & trade (Radio – Frequency Assisted Liposuction) อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมสำหรับคลินิกดูดไขมันชั้นนำทั่วกรุงเทพฯ
โดยเทคโนโลยี RFAL & trade สามารถทำงานได้รวดเร็ว ไขมันที่ดูดออกมามีเลือดปนน้อยมาก ๆ เพราะสามารถห้ามเลือดไปด้วยขณะทำ เพื่อลดการสูญเสียเลือด ด้วยอุปกรณ์ดูดไขมันที่มีขนาดเล็กมาก และสามารถปรับระดับความลึกได้ เพื่อเข้าไปทำลายเฉพาะเซลล์ไขมันบริเวณที่ต้องการโดยตรง โดยไม่ทำลายเส้นประสาทหรือเนื้อเยื่อรอบ ๆ พร้อมทั้งสามารถช่วยกระตุ้น Collagen ในชั้นใต้ผิวทำให้ผิวบริเวณที่ทำการรักษายกกระชับ (Tightening) และเนียนเรียบตึงขึ้น ไม่เกิดปัญหาผิวขรุขระเป็นโพรงในคราวเดียวกัน
ไม่ใช่แค่ดูดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้ผิวที่ดูดไขมันออกไปแล้วกลับมาเรียบ กระชับตึงขึ้นด้วย เพราะ Body Tite ใช้พลังงาน RF ที่ไม่เพียงแต่ลงไปสลายผนังเซลล์ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อน แต่ยังลงไปเปลี่ยนโครงสร้างและปัจจัยทางชีวเคมีในบริเวณนั้น รวมถึงเปลี่ยนโครงสร้างการไหลเวียนของน้ำเหลือง ทำให้ขณะที่กำลังสลายไขมันก็จะได้ผลของการกระชับผิวหนังไปพร้อม ๆ กัน และขจัด Cellulite ออกไปด้วย
นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือเดียวในการดูดไขมันที่สามารถฟื้นฟูคอลลาเจน ทำให้ผิวมีโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น ทำให้โอกาสที่ไขมันจะกลับมาสะสมใหม่ยากกว่าการดูดไขมันแบบเดิม นอกจากนี้ยังสามารถทำที่ใบหน้าได้อย่างปลอดภัย โดยจะเรียกว่าโปรแกรมเครื่อง Face Tite
Body Tite สามารถกำจัดไขมันได้หลายจุด เช่น ดูดไขมันหน้าท้อง สะโพก ก้น หลัง ดูดไขมันต้นขา เข่า ดูดไขมันแขน คอ สีข้างและหน้าอก เป็นต้น ด้วยเทคโนโลยีนี้เอง ทำให้ระบบหลอดเลือด ระบบเซลล์ประสาท และเนื้อเยื่อข้างเคียงเกิดความเสียหายน้อยลง และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน การหดตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อชั้นบาง ๆ ทำให้ผิวหนังทั้งหมดกระชับ ไม่หย่อนคล้อย ไม่เป็นผิวส้ม แผลเล็ก และสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ตามปกติ
เครื่องดูดไขมัน Body Jet
เครื่องดูดไขมันพลังงานน้ำ (Water-Jet Assisted Liposuction ) ทำให้ไขมันที่เกาะตามเนื้อเยื่อหลุดออก และดูดออกอย่างนุ่มนวล วิธีนี้จะไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากเป็นการใช้พลังงานน้ำในการดูดไขมันซึ่งมีความอ่อนโยนมาก นอกจากนี้เซลล์ไขมันที่ดูดออกมายังไม่ตาย แพทย์สามารถนำไขมันเหล่านี้ไปใช้ในการเติมเต็มบริเวณอื่น ๆ ที่คนไข้ต้องการได้
เครื่องดูดไขมัน Body Jet ที่ใช้เทคโนโลยี Water Jet ที่ฉีดพ่นน้ำเข้าไปถนอมเซลล์ไขมันอย่างอ่อนโยน ช่วยในการแยกไขมันให้ออกจากเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ไม่ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังได้รับความบอบช้ำ ที่สำคัญนั้นไม่ทำให้เกิดพังผืด มีผิวเรียบเนียน
หลังจากดูดไขมันด้วยเครื่อง Body jet ไขมันที่ถูกแยกออกจากเนื้อเยื่อเป็นแหล่งสำคัญของสเต็มเซลล์คุณภาพสูง พลังน้ำที่อ่อนโยนนั้นทำให้เซลล์ไขมันยังคงมีชีวิต เพราะไขมันที่ดูดออกมานั้นได้รับผลกระทบที่น้อยที่สุด เซลล์ไขมันที่ได้มานั้นมีคุณภาพดีมากกว่า 90% และยังคงเต็มไปด้วยสเต็มเซลล์ที่มีคุณค่าอย่างมหาศาล จึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่นการนำไปเติมเต็มส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการเติมไขมันหน้าอก, สะโพก หรือฉีดปรับแต่งรูปหน้า ทดแทนฟิลเลอร์ หรือเพาะเลี้ยงเสต็มเซลล์ เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกาย สุขภาพ และอวัยวะต่าง ๆ ภายใน ให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ช่วยฟื้นฟูร่างกาย ยืดเวลาการเสื่อมสภาพของอวัยวะต่าง ๆ
การดูดไขมันด้วยเครื่อง Body jet ดีอย่างไร?
1. ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body jet มีการพ่นน้ำเพื่อแยกชั้นไขมันออกจากเนื้อเยื่อที่เกี่ยวพันเส้นประสาทและเส้นเลือด ในขณะดูดไขมัน เพราะฉะนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อหลอดเลือด เส้นประสาท หรือเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ไม่ทำให้เกิดความบอบช้ำของผิว หรืออาการบวม และเสียเลือดในปริมาณน้อยมาก
2. ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body jet เป็นกระบวนการดูดไขมันแบบระบบปิด ที่ช่วยทำให้ไขมันที่ดูดออกมาไม่กระทบกับอากาศภายนอกเหมือนเครื่องทั่วไป จึงไม่มีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ อีกทั้งไขมันที่ได้มายังเป็นไขมันที่มีคุณภาพสูง เพราะฉะนั้นการนำไขมัน ไปใช้นั้นแทบจะไม่มีการสลายตัว
3.ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body jet มีการพ่นน้ำอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล จะทำให้ง่ายในการดูดไขมัน จึงใช้ระยะเวลาในการดูดไขมันที่สั้นลง ทำให้เกิดการบอบช้ำน้อย ส่วนใหญ่ผู้ที่รับการดูดไขมันด้วยเครื่อง Body jet จะใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยมาก สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติในทันที
สรุปข้อดีของการดูดไขมันด้วยเครื่อง Body Jet
J Plasma นวัตกรรมยกกระชับที่ดีที่สุด ณ ปัจจุบัน
J-Plasma คือ นวัตกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยยกกระชับผิวและสัดส่วน ที่ผสมผสานพลังงานอันทรงประสิทธิภาพระหว่างพลาสมาฮีเลียม และพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF)
โดยหลักการทำงานคือ เมื่อแพทย์ทำการสอดท่อพลังงานขนาดเล็ก ๆ เข้าไปใต้ผิวหนัง และพลังงานจะถูกปล่อยในจุดที่ต้องการ โดยก่อให้เกิดความร้อนขึ้นที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่สามารถทำให้เส้นใยที่ทำหน้าที่ยึดผิว (Fibroseptal Network) เนื้อเยื่อต่าง ๆ รวมไปถึงเนื้อเยื่อที่เป็นโพรงช่องว่างอยู่จะหดตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผิวหนังกระชับขึ้นทันที โดยท่อพลังงานจะลดอุณหภูมิลงเองอัตโนมัติให้เหลือ 41 องศาเซลเซียสเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อรอบข้างเกิดความเสียหาย
เทคโนโลยี J-Plasma ได้รับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจากสำนักงานอาหารและยาทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) และในประเทศไทย (อย.) ซึ่งเทคโนโลยี J-Plasma สามารถใช้ได้กับบริเวณต่าง ๆ ตามร่างกาย อาทิ ต้นแขน รักแร้ หน้าท้อง หลัง เอว ขา หรือน่อง
J-Plasma เหมาะกับใครบ้าง?
สำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก หรือมีลักษณะผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ การทำ J-Plasma ควบคู่ไปกับการดูดไขมัน จะยิ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น เพราะหลังจากดูดไขมันไปแล้ว จะเกิดช่องว่างเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง เมื่อใช้พลังงานพลาสมาฮีเลียมจะทำให้เนื้อเยื่อยึดติดเข้าหากัน และเป็นการกระตุ้นให้สร้างคอลลาเจน จนทำให้ผิวหนังมีความกระชับมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นได้ทั้งการสลายไขมัน และกระชับผิวให้เรียบเนียนเต่งตึงไปพร้อมกัน
นอกจากนี้ J-Plasma ยังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยหลังจากคลอดบุตร และผู้ที่มีปัญหาผิวไม่กระชับ จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการทำ J-Plasma เป็นการเปิดแผลเพียง 2-3 มิลลิเมตร “ไม่ใช่การผ่าตัด” จึงทำให้สามารถฟื้นตัวได้ไว นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่สามารถยกกระชับผิวหนังได้อย่างอ่อนโยน ตรงจุด เห็นผลได้ทันที และมีความปลอดภัย สามารถใช้ J-Plasma ในการกระชับทุกจุดทั่วร่างกาย
*กระชับแขนให้เรียวเล็กด้วย J-Plasma หมดปัญหาแขนไม่กระชับ ต้นแขนหย่อนคล้อย หรือมีการสะสมของไขมันส่วนเกินมาก ไม่กล้าใส่เสื้อกล้ามโชว์แขน ขาดความมั่นใจ เทคโนโลยี J-Plasma จะช่วยกระชับต้นแขนให้เรียวเล็กและกลับมามั่นใจอีกครั้ง
*กระชับหน้าท้องด้วย J-Plasma เทคโนโลยี J-Plasma จะช่วยลดไขมันส่วนเกินบริเวณท้อง เอว หรือคนที่คลอดบุตรแล้วมีปัญหาหน้าท้องลาย หน้าท้องเป็นผิวส้ม จะช่วยให้กระชับมากขึ้น รวมถึงคนที่ออกกำลังกายผิดวิธี ไขมันลดลงรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย หรือดูดไขมันแล้ว แต่ไม่ได้ยกกระชับผิว ก็สามารถทำได้เช่นกัน
*ลดขาใหญ่ ต้นขาย้วยด้วย J-Plasma ปัญหาต้นขาย้วย ไม่กระชับ ใส่กางเกงแล้วอึดอัด ขาเบียด การทำ J Plasma จะช่วยให้ต้นขากระชับหมดปัญหาต้นขาย้วย ต้นขาใหญ่ ลดขาใหญ่ ต้นขาหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัดยกกระชับต้นขา
ผิวจะยกกระชับขึ้นเนื่องจากผิวจะหดตัวลงประมาณ 30% และจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน ผิวยกระชับ เรียบเนียน ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นในระยะเวลา 3-6 เดือนหลังทำ โดยผลลัพธ์ที่ได้นั้น จะคงอยู่ในระยะยาวและไม่จำเป็นต้องกลับมาทำซ้ำ
ข้อดีของการทำ J-Plasma
J-Plasma แตกต่างจากการผ่าตัดยกกระชับแบบเดิมอย่างไร?
นอกจากนี้ BMI ยังส่งผลต่อปริมาณยาที่แพทย์จะใช้วางแผนการผ่าตัดให้เหมาะสม และปลอดภัยกับคนไข้มากที่สุด เช่น ปริมาณยานอนหลับ, ยาแก้อักเสบ, ยาแก้ปวด ดังนั้นการแจ้งข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้องและชัดเจนกับแพทย์ผู้ดูแลจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
ค่า BMI (Body Mass Index) คือค่าชี้วัดความสมดุลของน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) และส่วนสูง (เซนติเมตร)
วิธีการคำนวณ BMI น้ำหนักตัว (กก.) ÷ ส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง
เช่น น้ำหนัก 75 กิโลกรัม ÷ ส่วนสูง 1.80 ม. (181 ซม.) ยกกำลังสอง
= 75 / 3.24 BMI เท่ากับ 23.1
เกณฑ์การแปลผลค่า BMI
การดูดไขมันไม่เป็นอันตรายและไม่น่ากลัวอย่างที่คิด สำหรับผู้ที่สนใจดูดไขมัน แนะนำให้เข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ ลา เฟอร์ลี่ คลินิก ให้ข้อมูล รวมถึงคำแนะนำต่าง ๆ อย่างละเอียด เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับคนไข้ ก่อนตัดสินใจดูดไขมัน