เมื่อเราอายุมากขึ้น หน้าผากมักเกิดริ้วรอยทั้งแบบตื้นและลึก อีกทั้งเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังยังค่อย ๆ ยุบตัวลง ส่งผลให้ใบหน้าผากดูแบนราบ ขาดมิติ และอาจทำให้คุณดูเหนื่อยล้าหรือแก่กว่าอายุจริง ด้วยเหตุนี้ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะช่วยเติมเต็มและเพิ่มมิติให้ใบหน้า ทำให้คุณกลับมาแลดูอ่อนเยาว์และสดใสได้อีกครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการผ่าตัดแต่อย่างใด
โปรแกรมเติมฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นการฉีดสารเติมเต็มพิเศษไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งพัฒนาให้เหมือนกับสารตามธรรมชาติที่มีอยู่แล้วในร่างกายของเรา โดยฉีดเข้าสู่ผิวหนังชั้นกลางถึงชั้นลึกที่บริเวณหน้าผาก จากนั้นแพทย์จะนวดเบา ๆ เพื่อให้สารกระจายตัวอย่างทั่วถึง ผลลัพธ์คือผิวหน้าที่ดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์ และดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดังนี้
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะสำหรับคนที่กังวลเกี่ยวกับรูปหน้าหรือริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ดังต่อไปนี้
อย่างไรก็ตาม การเติมหน้าผากด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์อาจไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะในกรณีต่อไปนี้
ดังนั้น ก่อนการตัดสินใจเข้ารับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล
ปริมาณสารเติมเต็มฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดหน้าผากจะแตกต่างกันไปตามสภาพผิว และเป้าหมายของการรักษาแต่ละคน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะใช้ปริมาณดังนี้
สิ่งสำคัญคือ แพทย์มักเลือกใช้เทคนิคการฉีดหน้าผากแบบ “น้อยแต่มาก” (Less Is More) โดยเริ่มจากปริมาณน้อยก่อนแล้วค่อย ๆ เพิ่ม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและป้องกันการเติมสารฟิลเลอร์มากเกินไป อย่างไรก็ดี ในกรณีที่ต้องการเติมเต็มมากกว่าปกติ แพทย์อาจแนะนำให้แบ่งการรักษาเป็นหลายครั้ง ห่างกันประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อค่อย ๆ สร้างปริมาตรและให้เนื้อเยื่อได้ปรับตัว ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
โปรแกรมฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์แตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงเวลา ดังนี้
อย่างไรก็ดี ในบางกรณี แพทย์อาจนัดให้คุณกลับมาตรวจติดตามผลหลังการรักษาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อประเมินผลลัพธ์และพิจารณาว่าต้องเพิ่มปริมาณฟิลเลอร์หรือไม่ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
โดยทั่วไป โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นหัตถการที่ไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม อาจเกิดความเสี่ยงที่คุณควรรู้และระวัง เช่น
หากคุณรู้สึกว่าเติมฟิลเลอร์แล้วหน้าผากนูนเกินไป หรือผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง สามารถแก้ไขได้หลายวิธีด้วยกัน
ในกรณีที่สารเติมเต็มกระจายตัวไม่สม่ำเสมอและนูนเล็กน้อย แพทย์อาจใช้เทคนิคการนวด วิธีนี้ใช้ได้ผลดีในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการฉีด เมื่อสารฟิลเลอร์ยังมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับแต่งได้
สำหรับสารฟิลเลอร์ที่ทำจากกรดไฮยาลูรอนิก แพทย์สามารถฉีดเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสเพื่อละลายสารเติมเต็มได้ โดยสามารถละลายได้ทั้งบางส่วนและทั้งหมด
สารเติมเต็มกรดไฮยาลูรอนิกจะค่อย ๆ ถูกดูดซึมและสลายไปตามธรรมชาติ โดยระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับชนิดของสารเติมเต็มนั้น ๆ
สำหรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ คุณควรใช้เวลาศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบคลินิกต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการดูแลโดยมืออาชีพที่ไว้วางใจได้
คลินิกที่เหมาะสมสำหรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ควรมีคุณสมบัติดังนี้
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์หน้าผากของเราออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการปรับรูปหน้า โดยเรามีจุดเด่นดังนี้
ทุกการรักษาดำเนินการโดยแพทย์ด้านความงาม และมีประสบการณ์การฉีดหน้าผากมาอย่างยาวนาน
เราเลือกใช้เฉพาะสารเติมเต็มฟิลเลอร์คุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย โดยสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้อย่างโปร่งใส
ก่อนการฉีดหน้าผาก แพทย์จะวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าและความต้องการของคุณอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
เราใช้เทคนิคการฉีดหน้าผากที่ลดการเกิดรอยช้ำ เช่น การใช้เข็มปลายทู่ (Cannula) ในบางตำแหน่ง และการฉีดแบบ 3 มิติ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
เรามีบริการติดตามผลและให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการฉีด เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้ผลลัพธ์ที่เป็นไปตามคาดหวัง อยู่ได้นาน และไม่เกิดผลข้างเคียง
โดยทั่วไป การฉีดหน้าผากอาจเจ็บเล็กน้อย แต่ที่ La Ferly Clinic เราใช้ครีมชาเฉพาะที่ก่อนการฉีด และสารเติมเต็มฟิลเลอร์ส่วนใหญ่มีส่วนผสมของยาชาอยู่แล้ว ทำให้ผู้เข้ารับบริการส่วนมากรู้สึกถึงแรงกดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สามารถกลับไปทำงานได้ อย่างไรก็ดี หน้าผากอาจมีรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยซึ่งคุณสามารถใช้เครื่องสำอางปกปิดได้
ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเติมเต็มที่ใช้ การดูแลตนเอง การใช้ชีวิตประจำวัน และระบบการเผาผลาญของแต่ละบุคคล
สามารถแก้ไขได้ ด้วยการฉีดสลายสารเติมเต็มด้วยเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase)
สามารถฉีดได้ แต่ควรแจ้งประวัติการแพ้ให้แพทย์ทราบก่อน โดยแพทย์อาจทดสอบการแพ้ก่อนการฉีดจริง หรือเลือกใช้โปรแกรมฟิลเลอร์ที่มีโอกาสแพ้น้อยกว่า
ควรงดการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน 7 วันก่อนการฉีด (หากไม่ได้เป็นยาที่แพทย์สั่ง) และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการฉีด
ที่ La Ferly Clinic เราให้ความสำคัญกับการสร้างความพึงพอใจให้ผู้เข้ารับบริการ เริ่มต้นด้วยการให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อวิเคราะห์ความต้องการและนำเสนอแผนการรักษาที่เหมาะสม สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ที่สาขาใกล้บ้านทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ รังสิต สุทธิสาร บางนา ภูเก็ต อุดรธานี และขอนแก่น หรือโทร 098-889-2999 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน LINE: @laferlyclinic หรือ Website: www.laferlyclinic.com